Huawei P30 Series สุดยอดสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายรูปที่มีฟีเจอร์กล้องแบบจัดเต็ม และเป็นการยืนยันถึงการพัฒนาของ Huawei ที่ยังคงมุ่งมั่นแบบไม่หยุดยั้ง และเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกล้องถ่ายรูปบนมือถือ

ก่อนหน้านี้ทางทีมงานได้แนะนำวิธีการถ่ายภาพกลางคืนด้วย Night Mode ไปแล้ว ซึ่งยืนยันได้ว่ากล้องของ Huawei P30 Series สามารถถ่ายภาพได้สว่างกว่าที่ตาเรามองเห็น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายด้วยเลนส์หลักหรือถ่ายระยะไกลด้วยเลนส์ Telephoto ก็ได้ภาพกลางคืนที่สว่างคมชัดสุดๆ

ในวันนี้จะมาแนะนำวิธีการถ่ายภาพบุคคลให้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติด้วย Portrait Mode สำหรับในรุ่น Huawei P30 Pro จะเป็นการใช้เลนส์กล้องหลักและกล้อง TOF ทำงานร่วมกัน เพื่อให้การทำเอฟเฟ็กต์โบเก้นั้นออกมาสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่รุ่น P30 จะใช้กล้องหลักและเลเซอร์ในการโฟกัสตัวบุคคลแล้วทำเอฟเฟ็กต์โบเก้ให้ออกมาสวยงาม

วิธีการถ่ายภาพด้วย Portrait Mode สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการเปิดแอพกล้องแล้วเลือกไปที่ภาพบุคคลหรือ Portrait จากนั้นให้กันกล้องไปยังตัวบุคคลที่ต้องการถ่ายได้เลย ซึ่งความฉลาดของกล้อง Huawei P30 Series จะทำกาตรวจจับใบหน้าและโฟกัสให้อัตโนมัติ อีกทั้งยังมี AI เข้ามาช่วยปรับโทนผมและแสงเงาให้สวยโดยที่เราไม่ต้องตั้งค่าให้ยุ่งยากอีกด้วย

จะเห็นว่าการละลายฉากหลังหรือทำเอฟเฟ็กต์โบเก้จากกล้องของ Huawei P30 Pro สามารถตัดขอบตัวบุคคลได้อย่างแม่นยำ ซึ่งละเอียดไปถึงเส้นผมที่ยังคงเห็นชัดเจน มีความคมชัด ไม่ได้ถูกเบลอออกจากไป

ข้อดีของการมีกล้อง TOF นั้นทำให้ Huawei P30 Pro สามารถทำเอฟเฟ็กต์ละลายฉากหลังได้สวยสมจริงเหมือนถ่ายจากกล้องโปรมากขึ้น โดยหลักการทำงานของกล้องตัวนี้จะยิ่งแสงเลเซอร์ไปยังวัตถุแล้วสะท้อนกลับมา ทำให้รู้ระยะและรูปร่างของวัตถุ ซึ่งจะทำให้การละลายฉากหลังเป็นแบบ Multi Level Bokeh Effect ทำให้ภาพถ่ายดูสวยงาม ไม่ลอย

การถ่ายภาพ Portrait ด้วยกล้อง Huawei P30 Pro แล้วหลายคนมองว่าภาพดูลอยโดดเด่นเกินไปนั้น จะเห็นว่าภาพส่วนใหญ่เป็นการถ่ายบุคคลแล้วมีฉากหลังอยู่ในระยะไกลๆ ซึ่งตัวกล้องก็จะแบ่งระยะให้ชัดที่ตัวบุคคลเพียงอย่างเดียว ส่วนฉากหลังก็เบลอไปเลย แต่ถ้าต้องการให้การละลายฉากหลังเป็นแบบ Multi Level Bokeh Effect ก็ต้องทำให้ฉากหลังมีวัตถุหลายระยะด้วย เช่น จัดให้ตัวบุคคลอยู่หน้าสุด ถัดไปด้านหลังเป็นเสาที่เลเซอร์จากกล้อง TOF สามารถยิงเพื่อวัดระยะได้ แล้วถัดออกไปไม่ไกลก็เป็นต้นไม้ และสุดท้ายเป็นท้องฟ้า เป็นต้น เมื่อระบบทำเอฟเฟ็กต์โบเก้ก็จะเห็นการไล่ความเบลอจากน้อยไปมาก

การโฟกัสที่ใบหน้าและดวงตาของบุคคลที่กำลังถ่ายก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญสำหรับการถ่ายภาพ Portrait เพราะใบหน้าและสายตาจะเป็นตัวสื่อสารอารมณ์ไปยังคนดูนั่นเอง ซึ่งระบบโฟกัสของ Huawei P30 Series จะมีกรอบโฟกัสให้อัตโนมัติเมื่อตรวจพบใบหน้า

อย่างที่บอกไปว่าใบหน้าและสายตานั้นสำคัญในการถ่ายภาพ Portrait ดังนั้นตัวบุคคลต้องมีสีหน้าและการแสดงออกที่ดูผ่อนคลาย มีความสุข และดูสดใส ซึ่งระหว่างการถ่ายเราสามารถชวนแบบคุย สื่อสารการโพสต์ท่า หรือชื่นชมการโพสต์ท่าต่างๆ เพื่อให้แบบผ่อนคลายได้

การโพสต์ท่าก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความโดดเด่นในการโพสต์​ท่าแตกต่างกันออกไป สามารถหาท่าที่แบบโพสต์แล้วดูสวยเป็นธรรมชาติโดยการให้หันท่าหรือหันข้างไปเรื่อยๆ เพื่อดูว่าท่าการโพสต์ไหนที่ดูสวยงามและเหมาะกับตัวแบบมากที่สุด เพราะบางครั้งการถ่ายหน้าตรงๆ อาจทำให้ใบหน้าดูอ้วนและไม่มีมิติ

ในโหมด Portrait ยังมีลูกเล่นในการละลายฉากหลังและทำเอฟเฟ็กต์โบเก้เป็นรูปร่างต่างๆ ได้ เช่น วงกลม รูปหัวใจ การเบลอแบบหมุน เป็นต้น ทำให้ภาพออกมาสวยแบบไม่ซ้ำ แม้จะเป็นการถ่ายในฉากเดียวกันก็ตาม

นอกจาการใช้โหมด Portrait เพื่อละลายฉากหลังแล้ว การถ่ายภาพด้วยเลนส์ Ultra Wide ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ของ Huawei P30 Series ที่เป็นการสื่อสารด้วยบรรยากาศรอบๆ ของตัวบุคคลว่ากำลังทำอะไร ซึ่งเป็นภาพในมุมมองที่กว้างพิเศษเหมือนในกล้องแอคชั่น

ได้เห็นภาพถ่าย Portrait จากกล้อง Huawei P30 Series กันไปแล้ว รวมถึงเทคนิคดีๆ ในการถ่ายภาพบุคคลให้ออกมาดูน่าสนใจ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งก็มาจากกล้องถ่ายรูปที่ดีด้วย จึงจะสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยเป็นธรรมชาติแบบนี้

สำหรับ Huawei P30 Series เชื่อว่าถ้าใครที่รักการถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปรที่ไม่ต้องการพกกล้องตัวใหญ่ๆ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะเป็นมือถือที่ทุกคนต้องพกติดตัวแล้ว กล้องยังช่วยให้ทุกคนสามารถมีภาพสวยๆ ได้โดยไม่ต้องตั้งค่ากล้องให้ยุ่งยาก